วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552

แนะนำการลงทุน 7-11 กันยายน 2552

ก่อนอื่น SET เท่าที่ดูอาการมีโอกาสพบ 700 จุดได้ กำลังซื้อยังมีเข้ามาซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเหนือปัจจัยใด ๆ ตราบเท่าที่ยังมีแรงซื้อหุ้นตัวใหญ่และกระจายไปทุกกลุ่ม SET ก็ยังไม่ตกแน่นอนครับ

กลุ่มตัวเล็ก ๆ ก็มาตามนัดเกือบทุกตัว นำโดย BLAND TYONG ยังคงขึ้นต่อไปได้แบบช้า ๆ กลุ่ม PE มีข่าวลือว่าจะโดน takeover ก็เลยน่าสนใจเพิ่มขึ้น รอบนี้อาจวิ่งถึง 1.00 แล้วอย่าลืม PT PM หุ้นในกลุ่มด้วยล่ะ

ที่เข้าตาอีกคือเหล็ก GSTEEL GJS 2 แม่ลูกคู่นี้ก็ไปกับเขาเหมือนกัน GSTEEL คงไปได้ถึง 0.70 ส่วน GJS คงวิ่งได้ถึง0.30-0.40 และที่ขาดไม่ได้คือ TMB หลังจากมีข่าวว่าจะจ่ายปันผลครั้งแรกรอบ 10 ปี ราคาคงวิ่งไปถึง 1.50 - 2.00 แล้วแต่กำลังใจนะครับ

หุ้นตัวเล็ก ตัวน้อย เช่น BTC PRO PATKL TKS อะไรทำนองนี้ มองหาซื้อไว้ด้วยครับ และอีกอย่างคือ warrant ไม่ควรพลาดเพราะตลาดมูลค่าซื้อขายมาก ๆ พวก warrant มักจะแผลงฤทธิ์ให้มีโอกาสกำไรมาก ๆ เช่นกัน ช่วงนี้ warrant น่าเล่นที่สุดนะครับ เพราะซื้อง่ายขายคล่อง โอกาสกำไรมากกว่าโอกาสขาดทุน แต่ถ้าช่วงหุ้นลง ห้ามเล่นเด็ดขาดเลยครับ มันจะตามมาขาดทุนมาก ๆ เลย

สำหรับวิธีการเล่นให้ขาดทุนขอยกยอดไปก่อนครับ ช่วงนี้คงมีแต่กำไร ไม่มากก็น้อย พบกันคราวหน้าครับ

วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แนะนำการลงทุน 31-4 กันยายน 2552

SET ยังอิงกับตลาดต่างประเทศ Dow Jones ยังยืนเหนือระดับ 9,500 จุด ทำให้ตลาดทั่วโลก ยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้ ขณะนี้ก็มีแต่แรงพยุงตัว หุ้นตัวใหญ่คงอิ่มตัวแล้ว หุ้นตัวเล็กคงไล่ขึ้นทีละตัวรายวันไป

THAI ขึ้นไป 20 นิดหน่อย ตอนนี้ก็พักตัว กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ก็เริ่มหยุดแล้ว แต่หันมาเล่นวัสดุก่อสร้างแทน ได้แก่ RCI UMI SUPER Q-CON เหล่านี้ ตัวไหน P/E ยังไม่สูงนักก็อาจถูกไล่ราคาขึ้นมาได้

หุ้นตัวเล็ก เช่น BLAND TYONG BTC PE ESTAR PRO GENCO น่าสนใจทุกตัวเช่นเดิม แต่ BLAND ท่าทางจะทะลุ 0.50 ไปได้ คงไปได้แถว ๆ 0.70 - 0.80 น่าสนใจนะครับ เมื่อ BLAND วิ่ง TYONG ก็น่าสนใจเช่นกัน

พวกแอบ ๆ มา ก็มีในตลาด MAI เช่น SLC PPM STAR เจ้าของคงไล่ราคาขึ้นมาเนื่องจากราคาต่ำมานานแล้ว ทุกท่านมองหาหุ้นแบบนี้ไว้ติด PORT ด้วยนะครับ เพื่อความลุ้นในการลงทุนหุ้นตัวเล็ก ๆ คราวหน้าจะแนะนำการซื้อหุ้นที่มีโอกาสขาดทุน ทุกท่านจะได้ไม่เสียสตางค์นะครับ

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แนะนำการลงทุน 24-28 สิงหาคม 2552

SET ยังคงพยายามยืนและฝ่า 650 จุด ไปให้ได้อีกครั้งหนึ่ง เพราะตลาดต่างประเทศยังปรับตัวสูงขึ้น และกำลังซื้อหุ้นใหญ่ ๆ ยังมีเข้ามา ไม่ว่าราคาหรือดัชนีจะมากกว่าพื้นฐานก็ตาม แต่มีเม็ดเงินหรือแรงซื้อเข้ามามาก อาจทำให้ SET สามารถทะลุขึ้นไปทำ new high ได้อีก นักลงทุนควรอาศัยจังหวะนี้ปล่อยตามน้ำ และหาโอกาสขายอย่างเดียว เว้นแต่หุ้นเล็กสามารถเล่นเก็งกำไรและเล่นลงทุนได้ทั้ง 2 แบบ

ที่วิ่งเข้าตา คือ THAI บินมาเรื่อย ๆ รอบนี้น่าจะไปถึง 18.00 ได้ KCE ก็มีแววไปหา 2.20 เพราะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ไปกันเกือบหมดแล้ว บ้าน NCH ก็น่าจะไปสัก 3.00 ได้

หุ้นเล็ก ๆ เช่น NWR BLAND ESTAR PE BTC หรือที่ราคายังต่ำกว่า 0.50 และ par 1.00 ควรจะมองหาไว้ลงทุนหรือเก็งกำไร เพราะราคาถูกและยังไม่ขึ้น พบกันใหม่คราวหน้าครับ

วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แนะนำการลงทุน 17-21 สิงหาคม 2552

SET พยายามอย่างมากในการผ่าน 650 จุดให้ได้ และขึ้นมาทดสอบใกล้ ๆ 660 จุด แต่ไม่มีแรงซื้อมากพอให้ทะลุขึ้นไปได้ ซึ่งถ้าพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของไทยแล้ว อย่างที่บอกไว้ว่า มากกว่า 650 จุด แพงเกินปัจจัยพื้นฐาน ณ ปัจจุบัน หาก SET พุ่งขึ้นไปหา 700 จุด แสดงว่านักลงทุนมีต้นทุนที่แพงเกินความเป็นจริงอยู่ ข้อดีคือ ซื้อง่าย ขายคล่อง ข้อเสียคือ ไม่ใช่ราคาสำหรับนักลงทุน แต่เหมาะกับการเล่นเก็งกำไรหุ้นรายวัน รายตัวมากกว่า ลงทุนหุ้นพื้นฐาน

อย่างที่กล่าวไว้หลายสัปดาห์ หุ้นตัวเล็ก ต่ำกว่า 1.00 หรือ 3 ตัว 1 บาท น่าจะได้รับความสนใจอย่างมาก และพร้อมจะขึ้น ceiling ได้ทุกตัวถ้าไม่มีข่าวร้ายเรื่องผลการดำเนินงาน เพราะ SET 650 จุด ตัวไหนยังไม่มา ก็ต้องมาเพราะเมื่อ SET อ่อนลงไปแล้ว อาจไม่มีโอกาสปรับราคาขึ้นมาได้อีก

ดูเหมือนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จะมากันหลายตัว เช่น LH SPALI LPN เป็นต้น อสังหาฯ ขนาดเล็ก ก็น่าสนใจเช่น PRECHA NCH KC KMC BLAND เหล่านี้ราคาควรจะใกล้ ๆ 1.00 หรือกลุ่มไฟแนนซ์เล็ก ๆ เช่น NVL ECL THANI หุ้นเหล่านี้ ไม่ควรต่ำกว่า 1.00 หรือแม้แต่กลุ่มเหล็ก เช่น GSTEEL GJS ก็ควรปรับราคาขึ้นมาได้แล้ว แม่ลูกคู่นี้น่าจะไปพร้อม ๆ กัน อย่าลืมกลุ่ม PE PT PM ที่น่าจะมาด้วยเช่นกัน

กลุ่มดาวร่วง เช่น YNP ท่าทางยังงัวเงีย ถ้าขึ้นมาถึง 1.00 ไม่ได้ ให้รอดูไปก่อน TIES TIES-W1 แม่ลูกคู่นี้ก็เช่นกัน อาการยังไม่ดีขึ้น กระชากขึ้นมาวันเดียวแล้วถอยหลังแบบนี้ ยังไว้ใจไม่ได้ รอดูไปอีกเช่นกัน หาก TIES ยังขึ้นมาถึง 1.00 ไม่ได้ ไม่ควรลงทุน

ตบท้ายด้วยกลุ่มที่น่าจับตามอง คือ กลุ่มธนาคารเล็ก เช่น TMB SCIB CIMBT ACL กลุ่มนี้มีดีที่ข่าวหาพันธมิตรร่วมทุน จึงมีการลงทุนและเก็งกำไรผสมกันไป และโดดเด่นน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง รวม ๆ แล้ว 4 ตัวนี้ น่าซื้อลงทุนทุกตัว รอวันข่าวดีมาถึง จึงค่อยขายออกไป สัปดาห์นี้ไว้เท่านี้ก่อนนะครับ

วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แนะนำการลงทุน 10-14 สิงหาคม 2552

SET พยายามจะผ่าน 650 จุดไปให้ได้ แต่ไม่สำเร็จซึ่งทดสอบมาหลายครั้ง ซัก 4-5 รอบแล้ว อย่างนี้มีอาการว่าเต็มอิ่มของดัชนี ดังนั้น ใครที่มีหุ้นซื้อแถว 650 จุดนี้หรือถือไว้ต่ำกว่านี้ คำแนะนำคือขาย แล้วไปรอใกล้ ๆ 600 จุด SET จะผ่าน 650 จุดได้ ต้องมีแรงซื้อมากกว่า 30,000 ล้าน ถึงจะมองหาเป้าใหม่ แต่เท่าที่เห็น สรุปว่าไม่รอด เมื่อขึ้นไม่ได้ ก็ต้องหาทางลง ตัวเล็กตัวน้อยจึงวิ่งมาให้เห็น หรือแม้แต่ warrant ก็เล่นกันเพลินครับ

อย่างที่บอกไว้ กลุ่ม PE PT PM อาจจะเล่นต่อเพราะราคายังไม่แพงเมื่อเทียบกับ SET และกลุ่มที่อาจมาสัปดาห์นี้ได้แก่ SCIB ACL TMB ดูเหมือนธนาคารที่มองหาคู่จะมีเสน่ห์ในช่วงนี้ SCIB เป้า 20.00 ทะลุไปแล้ว น่าจะไปถึง 25.00 ส่วน ACL ถ้าวิ่งตาม ก็ยังคงเป้าเหมือนเดิมที่ 10.00 TMB รอบนี้น่าจะไป 1.00 ได้แล้วนะ ใครถือไว้ตั้งนานมาแล้ว ก็ค่อย ๆ ยิ้มได้บ้าง

ตัวที่น่าสนใจ TICON แม่ลูก 3 โดยเฉพาะ TICON-W4 วิ่งฉิว ทำ high 1.78 น่าจะวิ่งถึง 2.00 นะ ตัวต่อไป MILL MILL-W1 มาแรงถึงใจ MILL-W1 high 1.43 คงวิ่งถึง 1.50 ได้ไม่ยาก แต่แม่ลูกคู่นี้ ต้องเล่น cash balance เท่านั้น และอีกกลุ่มที่แรงคือ ถ่านหิน LANNA วิ่งถึง 14.30 อย่างนี้ น่าจะไปถึง 15.00 ได้ และ UMS UMS-W1 ก็มาเช่นกัน UMS-W1 มาทะลุ 6.00 เรียบร้อย น่าจะไปเกิน 6.35 ได้ UEC ได้อานิสงฆ์ไปด้วย คือเป็นหุ้นกลุ่มเดียวกัน ขึ้นมา 3.00 คงวิ่งต่อได้ตาม UMS

กลุ่มที่ต้องหลีกเลี่ยง คือ YNP อย่างที่เคยฝากไว้ เมื่อไหร่ต่ำกว่า 1.00 ต้องไปเลยครับ จะ 0.97 หรือ 0.93 ก็ต้องรีบเผ่น ไม่ต้องสงสัย เจ้ามือหรือเจ้าของ เค้าฝากขายมาเป็นโขยง อย่างนี้ขายตามไปก่อนแล้วค่อยมาเก็บตกทีหลัง ก็ยังไม่สาย เห็นอาทิตย์ที่แล้วตก floor ที่ 0.71 แล้วมีเด้ง แต่วันนี้ดูเหมือนมี new low ที่ 0.69 ถ้าเป็นอย่างนี้ ตามกฎคือ บอกเลิกศาลา หาหวานใจคนใหม่ได้เลย อีกตัวคือ TIES TIES-W1 ทำท่าว่าจะดีเมื่อ warrant เข้าตลาด แต่รูดลงทุกวัน ๆ ถ้าซื้อเฉลี่ยก็ขาดทุนเรื่อย ๆ ไป อย่างที่เคยบอกไว้ หุ้นลักษณะนี้ ห้ามซื้อเฉลี่ย ห้ามลงทุนเพิ่ม มองขายแล้วดูอาการ ถ้าหยุดตกค่อยเล่นได้ ลักษณะนี้ก็มีอีกตัวคือ TPOLY หล่นลงมา 1 floor แต่ทำ low ไว้แถว ๆ 1.90 แล้วยังรักษาอาการได้ ถ้ายืน 2.20 ที่ floor แรก แล้วค่อย ๆ ขึ้น อย่างนี้ซื้อตามได้ แสดงว่าคนขายเลิกขายแล้ว ต้องซื้อเล่นขึ้นครับ

สัปดาห์นี้ไว้แค่นี้ก่อน ขอให้ทุกท่านรักคุณแม่ มาก ๆ นะครับ ในวันแม่แห่งชาติ

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แนะนำการลงทุน 3-7 สิงหาคม 2552

ภาพรวมตลาดมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง มีโอกาสทำ high ที่ 650 จุด แต่การลงทุนต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้นนะครับ PTT ยังคงเป็นผู้นำตลาดเช่นเคย ราคาน้ำมันดิบมาเกือบ 70 เหรียญ ยิ่งทำให้กลุ่มพลังงานโดดเด่นมากขึ้น รอบนี้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ นำโดย LH QH LPN SPALI ก็เริ่มปรับตัวสูงขึ้น สะท้อนว่าวิกฤตกำลังจะผ่านพ้นไป แต่ระวังวิกฤตทางการเมืองของไทย ก็น่าระวังไม่น้อยเช่นกัน

หุ้นที่น่าสนใจ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ ได้แก่ CCET CCET-W2 เป้า CCET-W2 2.50 น่าจะไปถึงได้ไม่ยาก SPPT SPPT-W1 แม่ลูกคู่นี้ ก็วิ่งมาแรง SPPT-W1 มีโอกาสไปใกล้ ๆ 1.00 น่าลุ้นเช่นกัน

หุ้นตัวเล็ก ๆ ที่ยังไม่ขึ้นมากนัก เมื่อเทียบกับ SET ที่ 640 ได้แก่ กลุ่ม PE PT PM กลุ่ม BLAND TYONG และอื่น ๆ เช่น BTC KMC PAE ESTAR หุ้นเหล่านี้ยังไม่ปรับราคาขึ้นตามดัชนีที่เพิ่มขึ้นเลย สรุปว่า หุ้นต่ำกว่า 1.00 น่าสนใจทุกตัวเพราะสมควรจะปรับราคาขึ้นได้แล้วครับ

นักลงทุนอย่าลืมปรับ port การลงทุนให้เหมาะสมด้วย หากต่างชาติเริ่มซื้อน้อยลง ก็ควรลดการลงทุนด้วยเช่นกัน อย่าลืมนะครับ หุ้นพร้อมจะขึ้นและพร้อมจะลงได้ภายในวันและเวลาเดียวกัน ขอให้โชคดีทุกคนครับ

วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

แนะนำการลงทุน 27-31 กรกฎาคม 2552

ภาพรวมตลาดยังคงมีแรงซื้อเข้ามาอยู่ แต่ก็พร้อมจะปรับตัวลดลงได้ตลอดเวลา ลองมาเปรียบเทียบกับตลาดต่างประเทศดูจะพบว่า Dow Jones 14,000 จุด ลงมาต่ำสุด 7,500 จุด ลดลง 46% ปัจจุบันอยู่ที่ 9,000 จุด ลดลง 35% ลองมาเทียบกับ SET 800 จุด ลงมาต่ำสุด 380 จุด ลดลง 53% ปัจจุบันอยู่ที่ 614 จุด ลดลง 23% ซึ่งดีกว่า Dow Jones และหากเทียบบัญญัติไตรยางศ์ในอัตราการลดลงที่เท่ากัน คือ ลดลง 35% จะเท่ากับ 520 จุด แสดงว่า SET อยู่สูงเกินไป นอกจากนี้ ค่าตัวเลขต่าง ๆ ยังสะท้อนว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น สรุปว่า SET อยู่สูงเกินความเป็นจริงในปัจจุบัน ดังนั้น ต้องมองขายอย่างเดียวครับ ซื้อได้แต่ก็ต้องรีบออก ซื้อช่วงนี้ มีโอกาสกำไรระยะสั้นแต่มีโอกาสขาดทุนในระยะยาวได้ การลงทุนอย่างแท้จริงต้องรอ SET แถว ๆ 500 ต้น ๆ จึงจะสมเหตุผลทางตัวเลข

มาดูหุ้นรายตัวกันครับ SH เข้าตาเต็ม ๆ แต่ต้องระวังติด turnoverlist เพราะหุ้นแบบนี้ ตลาดดูเสมือนจะชอบแกล้งให้รายย่อยขาดทุน สำหรับผู้เล่นที่กล้าเสี่ยง ควรเข้าไปลุย เพราะโอกาสกำไรได้อย่างรวดเร็วมีมาก เป้าคงราว ๆ 1.00 บาท หุ้นกลุ่มเกษตร อาหาร ดูเหมือนจะมานะครับ KASET เป้า 5.00 บาท APURE คงไปได้เต็มบาท ตัวที่เคยแนะนำ TIES TIES-W1 ดูเหมือนจะหลุดโทษแบนแล้ว ก็น่าสนใจเช่นกันครับ อีกตัวคือ D1 D1-W1 ดูเหมือนลูกจะล้ำหน้าแม่แล้ว น่าติดตามต่อครับ โดยหลักแล้วถ้าลูกวิ่งล้ำหน้าแม่ แสดงว่าของดีครับ

ช่วงนี้ก็ลุ้น ผลประกอบการ ซึ่งถ้ามองให้ตรงไปตรงมาก็น่าจะไม่ดีนะครับ แต่ถ้าบริษัทไหนดี ก็แสดงว่าวางแผนการดำเนินงานได้ดี โปรดระมัดระวังการทำบัญชีให้งบดูดีในไตรมาสนี้ แล้วไปเละในไตรมาสหน้านะครับ และอย่างที่เคยแนะนำไว้ ให้เล่นหุ้นตัวเล็ก ๆ ที่ยังไม่ขึ้นเท่าไหร่ เช่น BLAND PE ขอให้เฮง ๆ กันทุกคนครับ

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การเล่น warrant และแนะนำการลงทุน 20-24 กรกฏาคม 2552

SET พุ่งขึ้นมาเหนือความคาดหมายที่น่าจะลงไป 550 จุด แต่กลับขึ้นมาทะลุ 600 จุด และยังมีแรงซื้อเข้ามาอีก แบบนี้ยังไงก็คงขึ้นต่อ แต่ไปได้แค่ไหนนั้น พระเจ้าเท่านั้นที่ตอบได้ อ้อ ! ระวังสุริยคราส วันที่ 22 กรกฎาคม ด้วยนะ เผื่อมีเรื่องไม่คาดฝัน ส่วนใหญ่คงเรื่องไม่ดี ผู้ที่มีหุ้นอยู่ ให้มองขายไว้บ้างครับ อย่าชะล่าใจ มีกำไรก็ควร ทำกำไรไว้บ้าง อย่ารอจนกลับมาขาดทุนนะครับ

ตัวที่มอง ๆ ไว้ ได้แก่ SVI SVI-W2 ทำ high มา อย่างนี้ต้องตาม เป้า SVI 2.30 ส่วน SVI-W2 ก็หักไป 1.00 บาท แต่ดูเหมือนจะอ่อนไหวตาม SET ดังนั้น ถ้า SET ไหลกลับไปอาจร่วงตามได้ ยังมี CCET CCET-W2 ที่ดูเหมือนตาม SVI มา ก็อาจเล่นได้เช่นกัน เป้า CCET-W2 คราวนี้คง 2.00 บาท นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มรถไฟฟ้า ได้แก่ BMCL TYONG เป้า BMCL คง 0.90 บาท ส่วน TYONG คง 0.70 บาท
หุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ มาเกือบยกแผง นำโดยรอบนี้ GBX คงไปถึง 1.00 บาท CGS ถ้าทำ high 1.58 คงวิ่งยาวไปถึง 2.00 บาท KK-W4 ก็น่าสนใจ วิ่งแรงได้ใจเลย เป้าคง 3.50 บาท ได้นะ

ทบทวน หุ้นที่เคยแนะนำ ได้แก่ D1 YNP TPOLY ก็ยังไม่น่าเกลียด ยังถือไหวและไปต่อได้ อ้อ ACL คลังอยากขายที่ 10.00 บาท ดังนั้น ยังมีส่วนต่างอยู่ประมาณ 2 บาท รีบเข้าแล้วออกนะครับ จบดีลแล้ว หุ้นอาจไม่อยู่ราคาสูง มีตัวอย่างให้เห็นเช่น CIMBT ทำ tender ที่ 2.10 บาท แล้วไหลลงไปเหลือ 0.80 ตอนนี้ขึ้นมาวิ่งอยู่ระหว่าง 1.60 – 2.00 บาท ยังไม่เกินราคา tender เลย ACL SCIB อาจอยู่ในข่ายเดียวกัน

ตามที่สัญญากันไว้ จะขอแนะนำ warrant เบื้องต้นให้นักลงทุนทราบพอสังเขป ดังนี้
Warrant คือใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ เปรียบได้กับ ใบจองซื้อรถยนต์เพื่อนำไปซื้อรถยนต์ warrant มาจากบริษัท มีมติในที่ประชุมเพื่อเพิ่มทุนสำหรับนำเงินไปใช้ขยายกิจการ หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน หรือ refinance ทางการเงินของบริษัท หรือกิจการอื่นใดที่เหมาะสม ซึ่งบริษัท นำมตินี้ไปเสนอขออนุมัติจาก ตลท. และ กลต. ตามลำดับ หลังจากได้รับอนุมัติแล้ว จึงออก warrant ได้
การได้ warrant จะขึ้นเครื่องหมาย xw หรือ xa แล้วแต่กรณี การออก warrant มี 2 -3 วิธี
1.แจกฟรี เช่น BLAND-W2 UNIQ-W1 เป็นต้น
2.ต้องเสียเงินซื้อ เช่น TICON-W4 เป็นต้น
3.หรือมาจากการเพิ่มทุนหุ้นสามัญ แล้วแถมฟรี เช่น ASCON-W1 เป็นต้น
เมื่อก่อน warrant ออกง่ายไม่ยุ่งยาก แต่เดี๋ยวนี้ทำยากขึ้น เพราะ ตลท. และ กลต. เข้มงวดมากขึ้นนั่นเอง ผู้ไม่มีความชำนาญในการเล่น warrant ไม่ควรเข้ามายุ่ง เพราะมีความเสี่ยงสูง ผันผวนสูง แต่ให้ผลตอบแทนสูงเช่นกัน
องค์ประกอบสำคัญที่จำเป็นต้องรู้ 3 อย่างได้แก่
1.อัตราส่วนการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ เช่น 1:5 คือ 1 warrant เปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญ 5 หุ้น
2.ราคาแปลงสภาพ เช่น 8.50 บาท UMS-W1+8.50 บาท ได้ UMS 1 หุ้น
3.วันหมดอายุ เช่น 1 ปี , 3 ปี BLAND-W1 หมดอายุ มค.53
นักลงทุนต้องรู้จักกิจการของหุ้นที่ซื้อพอสมควร เช่น ดำเนินธุรกิจอะไร มีความเติบโตก้าวหน้าแค่ไหน ราคาที่เหมาะสมควรเป็นเท่าไหร่ ความต้องการของบริษัท ในการแปลง warrant เป็นหุ้นสามัญเพื่อให้ได้เงินเข้าบริษัท มีหรือไม่ เป็นต้น
สรุป การเล่น warrant หากรู้จักคำนวณความเสี่ยงต่าง ๆ รู้องค์ประกอบ 3 ข้อดังที่กล่าวมาแล้ว จะไม่มีทางขาดทุนเลย มิหนำซ้ำยังเป็นอุปกรณ์ช่วยกำหนดราคาหุ้นที่เราลงทุน คล้าย ๆ เราได้หุ้น IPO ในมือตามต้นทุนของ warrant ที่เราซื้อมา หาก warrant ที่เราซื้อมา ราคาเพิ่มขึ้น เรามีทางเลือก 2 ทางคือ ขายทำกำไรออกไป หรือถือไว้เพื่อแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญได้
พบกันใหม่คราวหน้าครับ

วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

แนะนำการลงทุน 13 – 17 กรกฎาคม 2552

และแล้วดัชนี 600 จุด ก็เอาไม่อยู่ ค่อย ๆ หล่นลงมา นำโดย PTT ขายลงมาเรื่อย ๆ ทำให้ index เหลือ 560 กว่า ๆ แล้ว แนวโน้มราคาน้ำมันยังอ่อนลง ต่ำกว่า 60 เหรียญอีกแล้ว ภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวเท่าไร ดัชนี DOW JONE ก็ทำท่าว่าจะหลุด 8,000 จุด SET index น่าจะลงมาถึง 550 จุด หรืออย่างเลวร้ายอาจถึง ใกล้ ๆ 500 จุดก็ได้ นักลงทุนควรต้องเตรียมใจไว้ด้วยครับ

หุ้นหล่นขนาดนี้ ที่แนะนำไปคือ SGP ยังไม่หล่นเท่าไหร่ ก็ถือว่าดีใช้ได้ครับ ส่วน CIG CIG-W1 ยังค่อย ๆ ไปอย่างนี้ต้องถือไว้หรือซื้อตามได้ครับ สำหรับ TIES TIES-W1 เป็นไปตามคาด ตลาดลงโทษให้อยู่ใน turnoverlist เรียบร้อย ดูไปแล้ว ท่าทางจะเป็น long story นะครับ และ CGS D1 ยังไปได้อยู่ CGS ทำราคา high 1.57 แบบนี้น่าลุ้นถึง 2.00 บาท ส่วน D1 ติด turnoverlist เช่นกัน แต่ยังพยายามสู้อยู่ แบบนี้มีลุ้นเช่นกันครับ

สัปดาห์นี้ ที่เห็นเข้าตา คือ YNP ตลาดปรับตัวลงมามาก แต่ YNP ขึ้นสวนกระแส อย่างนี้คงมีลุ้นถึง 1.20 – 1.30 บาท ต้องตามนะครับ ผมยังไม่เคยแนะนำการเล่น warrant เลย คราวหน้าจะอธิบายเกี่ยวกับ warrant ไว้ประดับความรู้หรือลงทุนนิด ๆ หน่อย ๆ ตามอัธยาศัยครับ สำหรับผู้สนใจการลงทุนเบื้องต้น ขอแนะนำดูบล็อกเริ่มต้นการลงทุน www.investorbyarirat.blogspot.com

เพิ่มเติม เห็น TPOLY ทำ high เรื่อย ๆ ซื้อตามได้ครับ อาจวิ่งถึง 4.00 บาท แต่ถ้ามีข่าวอะไรกระทบต้องรีบขายนะครับ เหมือน YNP ออกข่าวปฏิเสธมา ทำราคาร่วงทันทีแบบนี้ อย่าเพิ่งเล่นครับ รอดูให้ชัดว่าฟื้นตัวขึ้นมาหรือเปล่า ใครซื้อวันนี้ รอดูอาการนิดนึงครับ ถ้าขายลงมาจนถึง 1.00 แล้วรับไม่ไหว ให้ขายทิ้ง หาตัวอื่นเล่นครับ หุ้นลงไม่เล่น จำไว้นะครับ ยึดตามกฎเคร่งครัด ถ้าขาดทุน ก็ขาดทุนในระดับที่รับความเสี่ยงได้ อ้อ อีกอย่างหนึ่ง วันนี้ ขายกันมากโดยเฉพาะหุ้น bank อาจขายนำเงินไปซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ เพราะดอกเบี้ยใช้ได้ 3-5% บางคนมองว่าหุ้นครึ่งปีหลังไม่อาจให้ผลตอบแทนถึง 3% จึงนำเงินไปซื้อพันธบัตรแทนไงครับ

วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

กลุ่มหุ้นและแนะนำการลงทุน 6 – 10 กรกฎาคม 2552

ตามที่ได้เกริ่นไว้ว่า กลุ่มหุ้นมีอะไรบ้าง บรรดาหุ้นรวม ๆ แบ่งกลุ่มได้ดังนี้คือ
กลุ่ม PTT ได้แก่ PTT , PTTEP , PTTCH , PTTAR , TOP , IRPC
กลุ่ม CP ได้แก่ CPF , TRUE , CPALL , MAKRO , SYRUS
กลุ่ม SCB ได้แก่ SCB , SICCO , SSEC , SCBL
กลุ่ม JASMIN ได้แก่ JAS , JTS , JMART , TT&T
กลุ่ม ช่อง7 และ BAY ได้แก่ BAY , ESTAR , MEDIAS , SCCC
กลุ่ม CGS ได้แก่ CGS , D1 , EVER , (SAFARI)
กลุ่ม LH ได้แก่ LH , QH , PREB , Q-CON
กลุ่ม SHIN ได้แก่ SHIN , ADVANC , THCOM , CSL , TWZ
กลุ่ม N-PARK ได้แก่ N-PARK , FNS , BMCL , PA , SIRI , SYNTEC
กลุ่ม BLAND ได้แก่ BLAND , TYONG , BMCL
กลุ่ม PE ได้แก่ PE , PT , PM
กลุ่ม SC ไดแก่ SC , MLINK , WIN
กลุ่ม MIDA , ML , MME
กลุ่ม MAJOR , MJD , MPIC
กลุ่ม SAMART , SAMTEL , SIM
และกลุ่มอื่น ๆ ที่ไปถือกิจการอย่างละแห่ง 2 แห่ง เช่น กลุ่ม SMC , SCAN กลุ่ม ITD , NWR กลุ่ม CK , TTW กลุ่ม NEP , NNCL กลุ่ม TKS , SYNEX กลุ่ม GSTEEL , GJS กลุ่ม UMS ,UEC กลุ่ม TIPCO , TASCO กลุ่ม SSE , DISTAR กลุ่ม SSI , BSBM กลุ่ม SCP , TWP กลุ่ม STEC , STPI กลุ่ม BJC , UV กลุ่ม SPORT , SMM

สรุปภาพรวมตลาด ยังคงแกว่งไปมาอยู่บริเวณ 600 จุด ตามที่คาดไว้ ตัวแนะนำสัปดาห์ที่แล้วคือ CIG ก็ไม่เลว ราคาไม่หล่น ที่เห็นเข้าตาท่าทางจะมาคือ SGP คงเรื่อง LPG เอามาด้วยทั้งหมดนั่นเอง ถ้ายังทำ high ต้องซื้อตามครับ ตามกฎ หุ้นยังขึ้นต่อ ต้องตามสถานเดียว คงไปได้ถึง 9-10 บาท

ตบท้ายด้วยหุ้นที่ลักษณะดูไว้เพื่อพิจารณา ตามที่เคยพูดถึงหุ้นเจ้ามือ จากตัวอย่าง TIES , TIES-W1 แม่ลูกคู่นี้ ร่วง 2 floor แบบนี้เข้าข่าย หุ้นตกมากๆ ตามกฎ ห้ามเล่น ห้ามซื้อเฉลี่ย ห้ามลงทุน แต่เก็งกำไรได้ภายในวันเดียวเท่านั้น และลักษณะอย่างนี้ ตลาดอาจลงโทษซ้ำด้วยการห้ามเล่น net หรือ margin อีกต่างหาก กล่าวคือ ติด turnoverlist นั่นเอง อาการจะเหมือน BLISS LIVE EMC IEC หุ้นลักษณะเหล่านี้ เสมือนตลาดจ้องจับผิดนะครับ ผู้เล่นต้องไวมาก ไม่ใช่ไวธรรมดา หุ้นเหล่านี้เวลากำไร จะได้มากกว่า 30% แต่ถ้าขาดทุนก็มากกว่า 50% ได้ครับ