วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2552

การลงเล่นในสนามจริง

ดัชนีตลาดหุ้นยืน 600 ได้หรือ ?

นับแต่ index ลดลงไปเหลือ 380 จุด แล้วค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นมายืน 400 ไป 450 และยังไป 500 แล้วยังไม่หยุดวิ่งทะลุทะลวงไปถึง 600 เลยไปถึง 630 กว่า ๆ เกือบถึง 650 แต่แล้วก็ถูกขายทำกำไร ร่วงไป 4-5 วันติด เหลือ 570 กว่า ๆ แล้ว rebound ขึ้นมาใกล้ ๆ 600 แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป

จากประสบการณ์ในอดีต ปัจจัยที่จะทำให้ขึ้น 600 และอยู่ระดับนี้ไปนาน ๆ มีดังนี้คือ
1.เม็ดเงินลงทุนยังคงอยู่ในประเทศไทย ความมั่นใจของนักลงทุนส่วนใหญ่ เห็นว่า index ควรอยู่ระดับนี้
2.มีการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลต่อเนื่องไปอีก เช่น เงินลงทุนในโครงการใหญ่ ๆ
3.ไม่มีการลงทุนอื่น ที่ให้ผลตอบแทนได้ดีกว่าการซื้อหุ้นเพื่อลงทุนไว้
4.อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจดีขึ้นกว่า ไตรมาสก่อน ๆ ไม่ว่าจะเป็นบวก หรือติดลบน้อยลง

และปัจจัยลบที่จะทำให้ index หล่นไปเหลือ 500 จุด ได้แก่
1.เสถียรภาพของรัฐบาล เกิดการแตกแยกระหว่างพรรคร่วม หรือมีข้อขัดแย้งการเมืองรอบใหม่
2.ปัจจัยภายนอกประเทศ เช่น การเมืองในอิหร่าน ปัญหาเกาหลีเหนือ หรือโรคไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม index ได้ปรับเพิ่มขึ้นมาเพียงพอแล้วสำหรับหุ้นขนาดใหญ่ จึงต้องดูตัวเลขผลดำเนินงานของบริษัทใหญ่ ๆ ว่า ดีขึ้นหรือไม่เพียงไร จาก Q2 ถ้าผลออกมาดีขึ้น index จะไม่ไหลลงแต่อาจไม่ขึ้นไปหา 700 เพราะยังไม่มั่นใจว่า บริษัททั้งหลายจะยังคงรักษากำไรไว้ได้หรือไม่ในปี 52 นี้

ผู้ลงทุนรายย่อย หรือนักเก็งกำไร ก็ควรมองหา หุ้นเล็กที่ราคายังไม่แพง คือ ยังถูกเกินไปสำหรับ index 600 จุด เช่น หุ้นกลุ่ม property ได้แก่ BLAND KMC N-PARK เป็นต้น เพราะราคายังต่ำเมื่อเทียบกับหุ้นใหญ่ และหุ้นเหล่านี้พร้อมจะขึ้นโดยผู้ลงทุนรายใหญ่มองเห็นว่าราคายังมี upside ได้อีกมาก

โดยสรุป ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน หรือนักเก็งกำไร ก็ควรมองหาหุ้นราคาต่ำไว้ เพราะว่าหาก index หล่น หุ้นใหญ่ก็ร่วง หุ้นเล็กก็อาจร่วงตามหรือไม่ร่วงก็ได้ เนื่องจากยังไม่ขึ้นเลย หรืออาจขึ้นสวนกระแสก็เป็นได้ แล้วจะลองมองหาหุ้นที่น่าสนใจมาฝากนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น